วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

ยาแก้สิวทำให้เป็นมะเร็งตับ

ยาที่เรารับประทานรักษาสิวมั่นใจหรือไม่ว่า ไม่มีผลข้างเคียง (Side Effect


              ยาที่เรารับประทานเพื่อรักษาสิวส่วนใหญ่ คือ ยากลุ่มกรดวิตามินเอ ซึ่งมีชื่อเคมีคือ Isotretinoin มีชื่อทางการค้าที่ขายในประเทศไทยคือ Roaccutane, Acnotin และ Isotane เป็นยารักษาสิวที่ใช้รักษาโรคสิวหัวช้าง สิวที่ดื้อต่อยาปฏิชีวนะ สิวอักเสบเรื้อรังที่ทำให้จมูกผิดรูปร่าง สิวที่ทำให้เกิดแผลเป็นมาก ๆ และสิวในผู้ป่วยที่มีอาการวิตกกังวลเกินเหตุ

ยารักษาสิวตัวนี้จะทำให้ผู้ที่ตั้งครรภ์เด็ก จะทำให้เด็กในครรภ์พิการ ผู้ที่ได้รับยาจึงต้องคุมกำเนิดก่อนรับประทานยานาน 1 เดือน และคุมกำเนิดระหว่างรับประทานยา ต้องหยุดยาล่วงหน้า 1 เดือนถึงจะตั้งครรภ์ได้ ต้องไม่บริจาคเลือดระหว่างรับประทานยาตัวนี้ ยาตัวนี้ต้องรับประทานต่อเนื่องกันนาน คือ ต้องรับยาจนได้ขนาดยาสะสมที่ 120 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่น ถ้าเรา 50 กิโลกรัม ก็ต้องทานยาจนได้ยาสะสมเท่ากับ 120 X 50 คือ 6,000 มิลลิกรัมนั่นเอง
ถ้าทานวันละ 20 มิลลิกรัม ก็ต้องรับประทานต่อเนื่องกันนาน 300 วัน ยาตัวนี้ทำให้ริมฝีปากแห้ง ตาแห้ง ผิวแห้ง บางคนอาจมีเลือดกำเดาไหล ในบางรายอาจทำให้ตับอักเสบได้จริง และอาจทำให้มีไขมันในเลือดสูง
พบว่ายารักษาโรคผิวหนังหลายตัวมีผลเสียต่อตับ จึงต้องควรระมัดระวังไม่ใช้ยาเหล่านี้โดยไม่จำเป็น หรือต้องคอยตรวจการเปลี่ยนแปลงทางห้องปฏิบัติการของตับอยู่เสมอ เช่น
  • ยา methotrexate ที่ใช้รักษาโรคสะเก็ดเงิน อาจทำให้ตับแข็งได้
  • ยากลุ่มกรดวิตามินเอที่ใช้รักษาโรคสิวและโรคสะเก็ดเงิน อาจมีพิษต่อตับและทำให้มีค่า เอนไซม์ตับสูงขึ้นได้
  • ยา minocycline ที่ใช้รักษาโรคสิวอาจทำให้ตับอักเสบได้
  • ยา griseofulvin , ketoconazole , terbinafine ที่รักษาการติดเชื้อราและยีสต์ของผิวหนัง อาจมีพิษต่อตับได้
ดังนั้นก่อนทานยา เราควรจะศึกษาให้ดีก่อน จะได้ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น